เมื่อเราทำดีที่สุดแล้วแต่ก็ยังไม่พอ

       เรื่องนี้สอนบทเรียนอะไรแก่เราเกี่ยวกับความล้มเหลว? พระเยซูไม่เคยทำการอัศจรรย์โดยไร้จุดประสงค์ พระองค์มักใช้การอัศจรรย์เพื่อแสดงถึงหลักการต่างๆเหตุการณ์นี้สอนว่าเราควรทำอะไร เวลาที่เราทำสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ
  บางครั้งเราทำสุดความสามารถในบางเรื่อง แต่ก็ยังไม่ถึงมาตรฐาน  เราขะมักเขม้นอ่านหนังสือเตรียมสอบ  แต่ได้แค่เกรด C เท่านั้นหรือเพียรพยายามอย่างหนักเพื่อให้ชีวิตแต่งงานดีขึ้น  แต่ก็ยังมองไม่เห็นความหืบ หน้าเลย บางครั้งชีวิตอาจลำบากมาก  ทำให้อยากยอมแพ้ เรารู้สึกอยากพูดว่า จะมีประโยชน์อะไรล่ะฉันก็ได้แต่รนหาเรื่องล้มเหลวมากขึ้นอีกเท่านั้น จะมีอะไรเปลื่ยนแปลงไหมล่ะ? สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องราวในคัมภีย์ คือ การเปรียบเทียบระหว่างการจับปลาทั้งสองครัง้ สาวกจับปลากันมาทั้งคืนและจับอะไรไม่ได้เลย แต่ต่อมาพวกเขาออกไปอีกครั้งใช้เวลาแค่ราว 10 นาที กลับจับปลาได้มากกว่าที่เคยจับมาทั้งชีวิต ก็ทะเลสาบเดิม เรือก็ลำเดิมอวนเดิม คนก็เป็นคนเดิมที่เคยจับมา ถ้าเช่นนั้นอะไรล่ะที่ทำให้เกิดความแตกต่าง?
   จริงๆแล้วมีความแตกต่างสามประการระหว่างการออกไปจับปลาสองครั้งนั้น  และความแตกต่างนี้ให้หลักการที่เราทำตามได้เมื่อเราพยายามสุดความสามารถแล้วแต่ยังลงเอยด้วยความล้มเหลว ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่นำหลักการเหล่านี้ไปใช้จะประสบความสำเร็จแท้จริงในชีวิตได้ พระเจ้าต้องการให้หลักการนี้เข้าใจง่าย เพื่อทุกคนจะได้รับประโยชน์
  แต่ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า พระเจ้าสนใจในความสำเร็จของคุณพระองค์ไม่สนใจที่จะเห็นคุณล้มเหลว สมมติว่าวันหนึ่ง เอมี ลูกสาวผมมาบอกว่า พ่อค่ะ ชีวิตหนูล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรล้วนแต่พังพาบ หนูไม่สามารถเอาชนะปัญหาได้  ทำอะไรไม่เคยถูกสักอย่าง  หนูล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และก็คงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว

แล้วผมจะตอบว่า โอ พ่อดีใจมากที่หนูบอกพ่อเรื่องนี้ มันทำให้พ่อรู้สึกดีในใจอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่แน่ๆในฐานะพ่อ ผมอยากให้ลูกๆประสบความสำเร็จ สามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นได้ ทำนองเดียวกัน พระบิดาในสวรรค์ของคุณก็อยากให้คุณประสบความสำเร็จ  ทั้งในชีวิตส่วนตัว  ครอบครัว  การเติมโตฝ่ายวิญญาณตลอดจนความสัมพันธ์  มีหลักการสามประการมาจากพระคำของพระเจ้าที่อาจช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ได้





ที่มารูปภาพ : https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%8B%E0%B8%B9&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=rGn_UvvzNuOpiAfL2oCIAQ&ved=0CCkQsAQ&biw=1366&bih=667#facrc=_&imgdii=_&imgrc=QBRCdNQRcWamFM%253A%3Bq1Twi4ETy9cQGM%3Bhttp%253A%252F%252F2.bp.blogspot.com%252F-ZtelzuZS61g%252FTxEJ4wJTqhI%252FAAAAAAAABAQ%252FnMXzYUpSRCk%252Fs400%252F201193_59118.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fppexplore.blogspot.com%252F2012%252F01%252F2012.html%3B400%3B30


แหล่งที่มาเนื้อหา: ริค วอร์เร็น.(2009).ตอบ12คำถามยากๆในชีวิต.กรุงเทพมหานคร:ISBN.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น